มหาสารคามยังวิกฤต น้ำชีท่วมถนนสายหลัก รถติดเป็นกิโล ชาวบ้านต้องถือป้ายให้ขับช้าๆ

น้ำจากแม่น้ำชีเอ่อท่วมถนนสายหลัก ทำรถติดยาวเป็นกิโล ชาวบ้านต้องยืนถือป้ายให้ขับช้าๆ เพราะคลื่นน้ำซัดเข้าบ้าน

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยใน จ.มหาสารคาม ยังคงวิกฤต ล่าสุดน้ำเอ่อท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 213 ตอน มหาสารคาม-หนองขอน ระหว่าง กม.4+240 ถึง กม.4+800 (ด้านซ้ายและขวาทาง) ช่วงบริเวณบ้านดินดำ ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม นอกจากนี้ น้ำจากแม่น้ำชีได้ล้นออกมาจากชุมชนหลากท่วมถนนทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งร้านสะดวกซื้อระดับน้ำลึก 40-50 เซนติเมตร

เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงได้นำป้ายแจ้งเตือนน้ำท่วมมาติดตั้ง โดยรถกระบะ หรือรถยกสูง สามารถใช้ช่องขวาสุดได้ ระดับน้ำประมาณ 30 เซนติเมตร และเปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวนทาง รถเล็กสามารถใช้เส้นทางได้ แต่ต้องสัญจรด้วยความระมัดระวัง ทำให้ช่วงบริเวณดังกล่าวมีปริมาณรถติดสะสมปริมาณมากในช่วงเวลาเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักจากในตัวเมืองมหาสารคาม เพื่อจะข้ามสะพานข้ามแม่น้ำชีไปยัง อ.กันทรวิชัย และทำงานในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตขามเรียง และราษฎรจาก อ.กันทรวิชัย ข้ามมาทำงานในเขตตัวเมือง ทำให้รถติดอย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมทั้ง 2 ฝั่ง และน้ำมีแนวโน้มปริมาณจะเพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากรถยนต์ที่วิ่งผ่าน เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำกระแทกตัวบ้าน ทำให้น้ำเข้าบ้าน และยังมีร้านค้าในชุมชนที่ไม่สามารถเปิดร้านค้าขายได้ เนื่องจากน้ำมีปริมาณสูง ชาวบ้านบางคนต้องมายืนบนถนนถือป้ายให้ให้ที่ผ่านไปมาวิ่งช้าๆ เพราะที่บ้านมีคนป่วย ขณะเดียวกันพื้นที่ชุมชนบ้านดินดำถูกน้ำท่วมขังสูง ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำและพายเรือออกมาซื้อข้าวของ

สำหรับภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยใน จ.มหาสารคาม มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เชียงยืน โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และ อ.เมือง รวม 43 ตำบล 485 หมู่บ้าน 8 ชุมชน ราษฏร 5,190 ครัวเรือน 16,609 คน ตั้งจุดอพยพประชาชน 10 จุด ประชาชน 606 คน จุดอพยพสัตว์ 5 จุด สัตว์เลี้ยง 650 ตัว มีหมู่บ้านถูกตัดขาด 11 ตำบล 33 หมู่บ้าน โรงเรียน 14 แห่ง วัด 31 แห่ง รพ.สต. 8 แห่ง ด้านการเกษตรคาดว่าจะมีพื้นที่เสียหาย 145,099.50 ไร่