Tales of Phantasia เป็นเกม RPG คลาสสิกที่เปิดตัวครั้งแรกบนเครื่อง Super Famicom ในญี่ปุ่นเมื่อปี 1995 และต่อมาได้รับการพอร์ตมายังแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น PlayStation, Game Boy Advance และ iOS เกมนี้เป็นภาคแรกในซีรีส์ Tales อันโด่งดัง และได้วางรากฐานสำคัญให้กับเกมในซีรีส์ภาคต่อๆ มา เนื้อเรื่อง: Tales of Phantasia นำเสนอเรื่องราวของ Cress Albane หนุ่มนักดาบผู้ต้องออกผจญภัยเพื่อแก้แค้นให้กับครอบครัวที่ถูกสังหาร และปกป้องโลกจากภัยคุกคามของ Dhaos จอมมารผู้ทรงพลัง เนื้อเรื่องของเกมมีความซับซ้อนและน่าติดตาม โดยผู้เล่นจะได้เดินทางข้ามกาลเวลาและพบกับตัวละครที่น่าสนใจมากมาย ผมประทับใจกับการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้งและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่เติบโตขึ้นตลอดการเดินทาง โดยเฉพาะมิตรภาพระหว่าง Cress และ Chester ที่เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก รวมถึงการเปิดเผยแรงจูงใจที่ซับซ้อนของตัวร้ายอย่าง Dhaos ที่ทำให้เขาไม่ใช่แค่ตัวร้ายที่ชั่วร้ายไปเสียทุกอย่าง ระบบการต่อสู้: ระบบการต่อสู้ของ Tales of Phantasia เป็นจุดเด่นที่สำคัญของเกม ด้วยระบบ Linear Motion Battle System (LMBS) ที่ผสมผสานการต่อสู้แบบ real-time เข้ากับองค์ประกอบของเกม RPG แบบดั้งเดิม ผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครหลักได้โดยตรง ในขณะที่ AI จะควบคุมสมาชิกในทีมที่เหลือ การต่อสู้มีความสนุกและท้าทาย ต้องใช้ทั้งไหวพริบและความเร็วในการโจมตี หลบหลีก และใช้สกิลพิเศษต่างๆ ผมชอบที่ระบบนี้ทำให้รู้สึกมีส่วนร่วมในการต่อสู้มากกว่าระบบ turn-based แบบดั้งเดิม และการที่สามารถสลับควบคุมตัวละครอื่นๆ ในทีมได้ก็เพิ่มความหลากหลายในการเล่นด้วย กราฟิกและเสียง: สำหรับเกมยุค 16-bit แล้ว Tales of Phantasia มีกราฟิกที่สวยงามและมีรายละเอียดสูง ฉากหลังและตัวละครมีการออกแบบที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะในฉากต่อสู้ที่มีแอนิเมชันเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหล ผมชอบการออกแบบโลกในเกมที่มีความหลากหลาย ทั้งเมือง ป่า ถ้ำ และปราสาท แต่ละที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้านเสียง Tales of Phantasia โดดเด่นด้วยการใช้เสียงพากย์แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาสำหรับเกม SNES ในยุคนั้น ดนตรีประกอบก็ไพเราะและสร้างบรรยากาศได้ดี โดยเฉพาะเพลงประกอบฉากต่อสู้ที่เร้าใจและเพลงธีมหลักที่จดจำง่าย ระบบการพัฒนาตัวละคร: เกมมีระบบการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง ผู้เล่นสามารถปรับแต่งสกิลและอุปกรณ์ของตัวละครได้อย่างหลากหลาย การเรียนรู้สกิลใหม่ๆ ผ่านการใช้งานอาวุธและการต่อสู้ทำให้รู้สึกว่าตัวละครพัฒนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผมชอบที่ระบบนี้กระตุ้นให้ทดลองใช้อาวุธและสกิลต่างๆ เพื่อค้นหาวิธีการต่อสู้ที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเอง ความยากและความสมดุล: Tales of Phantasia มีระดับความยากที่เหมาะสม แม้จะมีช่วงที่ท้าทายแต่ก็ไม่ถึงกับทำให้หงุดหงิด การต่อสู้กับบอสแต่ละครั้งต้องใช้กลยุทธ์และการเตรียมตัวที่ดี ซึ่งทำให้รู้สึกพึงพอใจเมื่อเอาชนะได้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจรู้สึกว่าต้อง grind เพื่อเพิ่มเลเวลมากเกินไปในบางช่วงของเกม โลกและการสำรวจ: โลกของ Tales of Phantasia มีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งให้ค้นหา ผมชอบที่เกมกระตุ้นให้สำรวจโดยซ่อนไอเทมและความลับต่างๆ ไว้ในมุมต่างๆ ของแผนที่ การเดินทางข้ามกาลเวลาก็เพิ่มมิติให้กับการสำรวจ เมื่อได้เห็นว่าสถานที่เดียวกันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในยุคสมัยที่ต่างกัน ระบบย่อยและมินิเกม: นอกจากการต่อสู้และการสำรวจแล้ว Tales of Phantasia ยังมีระบบย่อยที่น่าสนใจ เช่น การทำอาหาร การสร้างไอเทม และมินิเกมต่างๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับเกมเพลย์และทำให้โลกในเกมรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น ผมชอบที่ระบบเหล่านี้ไม่ได้รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดเข้ามา แต่ผสมผสานเข้ากับเนื้อเรื่องและการเล่นหลักได้อย่างลงตัว ความประทับใจส่วนตัว: การเล่น Tales of Phantasia เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผม แม้จะเป็นเกมเก่าแต่ก็ยังสนุกและน่าติดตาม ผมประทับใจกับความใส่ใจในรายละเอียดของเกม ทั้งในแง่ของเนื้อเรื่อง การพัฒนาตัวละคร และระบบการเล่นที่ลึกซึ้ง ช่วงที่ประทับใจที่สุดคือการได้เห็นตัวละครเติบโตและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างการผจญภัย โดยเฉพาะฉากที่ Cress และเพื่อนๆ ต้องเผชิญหน้ากับความจริงเกี่ยวกับ Dhaos และต้องตัดสินใจที่ยากลำบาก ฉากเหล่านี้ทำให้เรื่องราวมีมิติและทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับตัวละครมากขึ้น สรุป: Tales of Phantasia เป็นเกม RPG คลาสสิกที่ยังคงความสนุกและน่าเล่นแม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ระบบการต่อสู้ที่สนุก และโลกที่น่าค้นหา เกมนี้สมควรได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกม RPG ที่ดีที่สุดในยุค 16-bit อย่างแท้จริง แม้จะมีข้อบกพร่องเล็กน้อยบ้าง เช่น ความจำเป็นในการ grind ในบางช่วง แต่ข้อดีของเกมก็มีมากกว่าข้อเสียอย่างชัดเจน สำหรับแฟนเกม RPG หรือผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ของวิดีโอเกม Tales of Phantasia เป็นเกมที่ไม่ควรพลาด มันไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ Tales ที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของนวัตกรรมในวงการเกม RPG ยุค 90 ด้วย การได้เล่นเกมนี้ทำให้เข้าใจว่าทำไมมันถึงได้รับความนิยมและมีอิทธิพลต่อเกม RPG ในยุคต่อมา ประสบการณ์การเล่น Tales of Phantasia เป็นการเดินทางที่น่าจดจำ ที่ทำให้ผมหวนนึกถึงความมหัศจรรย์ของการเล่นเกม RPG ในวัยเด็ก และทำให้ตระหนักว่าเสน่ห์ของเกมคลาสสิกเหล่านี้ยังคงอยู่แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !