นรข.หน่วยเรือโพนพิสัย จับยาบ้าเฉียด4พันเม็ด 2ผู้ต้องหาสารภาพช่วงนี้ขาดคนส่งต้องมารับเอง


นรข.หน่วยเรือโพนพิสัย จับยาบ้าเฉียด4พันเม็ด 2ผู้ต้องหาสารภาพช่วงนี้ขาดคนส่งต้องมารับเอง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2563 ที่หน่วยเรือโพนพิสัย อ.โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย น.ต.การันต์ มินวงษ์ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอโพนพิสัย, เจ้าหน้าที่งานสืบสวน สภ.บ้านเดื่อ, ทหาร หมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 1 กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ร่วมกัน แถลงข่าวการจับกุมยาบ้าจำนวน 3,987 เม็ด พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย คือนายประยุทธ ไชยเลิศ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ 6 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรฯ และนายเอกวัฒน์ แสงใสแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 9 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรฯ พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน คกษ 837 อุดรธานี
การจับกุมครั้งนี้เมื่อเวลา ประมาณ 02.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2563 น.ต.การันต์ มินวงษ์ หัวหน้าหน่วยเรือโพนพิสัย นรข.เขตหนองคาย ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบส่งมอบยาเสพติดบริเวณจุดจอดเรือบ้านหัวหาด ริมฝั่งแม่น้าโขง บ.หัวหาด หมู่ 4 ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย จึงรายงานให้ น.อ.วรัท โกพลรัตน์ ผบ.นรข.เขตหนองคาย ทราบ และ ประสานไปยัง สภ.บ้านเดื่อ และหน่วยงานใกล้เคียง วางแผนร่วมการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าวางกำลังดักซุ่มตามที่สายลับแจ้งและบริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. ได้พบชายต้องสงสัย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์สีดำมาจอดบริเวณจุดจอดเรือ บ.หัวหาด ม.4 ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย
โดยชายทั้งสองได้ลงจากรถจักรยานยนต์มาหาชายคนหนึ่ง ลักษณะผอมผิวสีด้า ส่วนสูงประมาณ 160 เซนติเมตร แล้วชายทั้งสองที่ขี่จักรยานยนต์ได้เข้ามานั่งรอที่ศาลาจุดจอดเรือ ระหว่างที่ชายทั้งสองนั่งรอตรวจพบชายหนึ่งคนขับเรือกีบเพลายาวมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาจอดและออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นประมาณ 15-20 นาที ชายคนที่ซ้อนท้ายได้เดินลงไปยังริมฝั่งแม่น้าโขงแล้วหยิบวัตถุต้องสงสัยที่วางอยู่ในถังพลาสติกสีดำที่มีตาข่ายจับปลาทับไว้แล้วเดินขึ้นมาจากริมฝั่งแม่น้าโขงมายังศาลาจุดจอดเรือซึ่งห่างกันประมาณ 20-30 เมตร
เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวเพื่อท้าการตรวจค้นชายทั้งสองแสดงอาการตกใจพยามจะหลบหนีแต่ เจ้าหน้าที่ฯ สามารถควบคุมตัวไว้ได้ทั้งสองคน เจ้าหน้าที่ฯ จึงขอทำการตรวจค้น พบยาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อน อยู่บริเวณหัวกางเกงด้านหน้าของนายประยุทธ ไชยเลิศ ส่วนนาย เอกวัฒน์ แสงใสแก้ว ที่มาด้วยกันไม่พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตัว จึงแจ้งข้อกล่าวหาชายทั้งสองคนว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจ้าหน่ายโดยผิดกฎหมาย และได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาที่หน่วยเรือโพนพิสัย
จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคน ทำให้ทราบว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน และติดยาบ้าทั้งคู่ ที่ต้องมารับยาบ้าถึงหนองคาย เนื่องจากท้าวแซมชาวลาวที่เคยส่งยาบ้าให้ถึง 3 ครั้ง ช่วงนี้ไม่สามารถไปส่งยาบ้าให้ได้ ให้พวกตนมารับเอง โดยให้เบอร์โทรศัพท์ของคนชื่อบาง ไม่ทราบว่าเป็นคนไทยหรือคนลาว ซึ่งคนชื่อบางได้นัดหมายให้พวกตนมารับยาบ้าที่บริเวณดังกล่าว จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ยาบ้าที่มารับครั้งนี้เป็นของพวกตน 2,000 เม็ด ส่วนที่เหลือท้าวแซมฝากขนไปให้ โดยได้ค่าจ้างเป็นส่วนลดค่ายาบ้า 10,000 บาท
ซึ่งยาบ้าในส่วนของตนซื้อ ตกลงกันในราคา 50,000 บาท ได้ส่วนลดจากค่าจ้างขน จึงเหลือ 40,000 บาท หลังจากขายได้ก็จะโอนเข้าบัญชีให้ โดยท้าวแซมจะเป็นคนแจ้งรายละเอียดมาให้ แต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน ยาบ้าที่ซื้อไปส่วนหนึ่งจะขายให้กับเพื่อน ๆ และวัยรุ่นในหมู่บ้านในราคาเม็ดละ 50-60 บาท อีกส่วนหนึ่งพวกตนจะใช้เสพ วันละ 4-6 เม็ด
ภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเดื่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป