ยอดผู้รอดชีวิตเหตุสังหารหมู่หนานจิง เหลือเพียง 37 คน

(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพของเฉิงฝูเป่าในปี 1963 (ซ้ายบน) เฉิงฝูเป่าอาศัยอยู่ในบ้าน (ขวาบน) เฉิงฝูเป่าโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงลงบนเวยโป๋ของตนเอง (ล่างซ้าย) เฉิงฝูเป่าอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน (กลางล่าง) และภาพหมู่ของเฉิงฝูเป่า ภรรยา และลูกชาย (ขวาล่าง))

หนานจิง, 31 ม.ค. (ซินหัว) -- วันพุธ (31 ม.ค.) หอรำลึกเหยื่อเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงโดยผู้รุกรานชาวญี่ปุ่น รายงานจำนวนผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงลดลงเหลือ 37 คน หลังจากเฉิงฝูเป่า หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เสียชีวิตแล้วในวัย 91 ปี เมื่อวันอังคาร (30 ม.ค.)

เหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงเกิดขึ้นขณะกองกำลังทหารญี่ปุ่นยึดครองเมืองหนานจิงเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 1937 โดยช่วงระยะ 6 สัปดาห์ มีการเซ่นฆ่าพลเมืองและทหารไร้อาวุธชาวจีนราว 300,000 ราย ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ป่าเถื่อนที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2

หลังจากกองกำลังทหารญี่ปุ่นยึดครองเมืองหนานจิงในปี 1937 พ่อของเฉิงได้พาสมาชิกในครอบครัวออกจากเมืองเพื่อหลบหนีการสังหารหมู่ ทว่าพ่อของเฉิงถูกสังหารโดยกองกำลังทหารญี่ปุ่น ขณะเฉิงและสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ มีชีวิตรอด ต่อมาหลังหนานจิงได้รับการปลดแอกในปี 1949 เฉิงได้กลายมาเป็นทหารของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน

รัฐบาลจีนได้เก็บรักษาคำให้การของผู้รอดชีวิตด้วยการบันทึกในเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรและคลิปวิดีโอ ซึ่งยูเนสโก (UNESCO) จัดให้บันทึกเหล่านั้นอยู่ในโครงการความทรงจำแห่งโลก (Memory of the World Register) ในปี 2015