เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันที่ 9 กันยายน 2025 ที่ผ่าน สำหรับ iPhone 17 ที่ครั้งนี้เขากลับมาแล้วถึง 4 รุ่นด้วยกัน คือ iPhone 17, Air, 17 Pro, 17 Pro Max และ Air ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกับว่า iPhone 17 มีอะไรใหม่ และ ระหว่าง iPhone 16 กับ 17 รุ่นไหนจะคุ้มกว่ากัน เราไปรวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ไปดูพร้อมกันเลย https://www.youtube.com/watch?v=H3KnMyojEQU สเปค iPhone 17 iPhone 17 เปิดตัวมาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.3 นิ้ว เทคโนโลยี ProMotion (120 hz) จอภาพแบบติดตลอด และยังคงมี Dynamic Island เหมือนเช่นเคย ความสว่างสูงสุด 3,000 Nits ลดการสะท้อนของแสง 33% ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียม หนา 7.95 มม. น้ำหนัก 177 กรัม กระจกด้านหน้า Ceramic Shield 2 ทนการขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า และด้านหลังเป็นกระจก แบบ color-infused glass ต่อมาในส่วนของกล้องหน้า และหลัง รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 2 กล้อง กล้องหลัก Fusion 48MP พร้อมเทเลโฟโต้ 2 เท่า และกล้องอัลตร้าไวด์ Fusion 48MP ภาพถ่ายแบบ Super High-Resolution 24MP และ 48MP การถ่ายแบบมาโคร ถ่ายวิดีโอ Dolby Vision เทคโนโลยี High Dynamic Range (HDR) สูงสุด 4K ที่ 60 fps ซูมสูงสุด 5 เท่า กล้องหน้าเพิ่มจากเดิมเป็น 18MP พร้อมระบบ Center Stage ที่ให้คุณสามารถปรับซูมเข้า-ออก และ ปรับขนาดภาพให้เป็นแนวนอนได้ สามารถบันทึกวิดีโอด้วยกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน และ AI ที่ช่วยให้ปรับเฟรมภาพอัตโนมัติเวลาที่ VDO Call เพื่อให้คุณอยู่ตรงกลางเฟรมเสมอ นอกจากนี้ยังมาพร้อมชิปตัวใหม่ A19 CPU แบบ 6‑core GPU แบบ 5‑core พร้อมตัวเร่งความเร็วนิวรอล ในส่วนของความจุทาง Apple ไม่ได้มีการพูดถึง แต่ระบุว่าสามารถเล่นวิดีโอสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง และชาร์จได้สูงสุด 50% ใน 20 นาที ด้วยอะแดปเตอร์ขนาด 40 วัตต์ หรือสูงกว่า ความจุ: 256 GB - 512 GB สี: ลาเวนเดอร์ / เขียวเสจ / ฟ้าหมอก / ขาว / ดำ ราคา: 29,900 - 37,900 บาท iPhone 16 กับ iPhone 17 อันไหนคุ้มค่ากว่ากัน ส่วนตัวนักเขียนที่เป็นผู้ใช้งานจาก iPhone 7 Plus มาเป็น iPhone 16 อยู่ในปัจจุบัน ก็ต้องบอกเลยว่า ตั้งแต่เปิดตัวและได้ใช้งานจริงด้วยตัวเอง iPhone 16 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่ให้ความคุ้มค่ากับผู้ใช้งานค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพราะหากเทียบกับมือถือจากค่าย Apple ในรุ่นก่อนหน้าก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลง หรือการพัฒนาค่อนข้างที่จะน้อยมาก แต่สำหรับ iPhone 16 ในราคาเริ่มต้นที่ 26,900 บาท ที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ ชิป A18 ตัวเครื่องอะลูมิเนียม จอภาพจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับ Apple Intelligence การถ่ายวิดีโอแบบ 4K ช่องเชื่อมต่อ USB-C และที่ฮือฮาสุด ๆ กับปุ่ม Camera Control ที่ถึงแม้ว่าแทบจะไม่ได้ใช้งานเลย ก็ถือว่าในครั้งนั้น Apple ก็ให้สเปคมาแบบไม่กักพอสมควร แต่คราวนี้เรามาดูกันกับ iPhone 17 ที่ครั้งนี้มาพร้อมสีใหม่ 5 สี ความจุเริ่มต้นที่ 256GB ในราคา 29,900 บาท สำหรับใครที่ไม่ได้เปลี่ยนมือถือสัก 3 - 4 ปี อันนี้ก็น่าจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากพอสมควร เพราะถ้าหากความจุ 256GB ในไอโฟน 16 จะมีราคาอยู่ที่ 33,900 บาทเลยทีเดียว แต่ในครั้งนี้กับราคา 2 หมื่นปลาย ๆ แล้วคุณจะได้มือถือที่มาพร้อมสเปคใหม่ ๆ ที่เราได้พูดไปตั้งแต่ต้น และความจุที่เพื่อมมากขึ้น ก็ถือว่าว่าสมเหตุสมผล และเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องความความคุ้มค่าก็อาจจะตอบได้ยากว่ารุ่นไหนคุ้มค่ามากกว่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนด้วย แต่สำหรับคนที่มีงบในมือประมาณ 30,000 บาท แล้วอยากเปลี่ยนมือถือใหม่ เราแนะนำให้อัปเกรดไปเป็น iPhone 17 เลยค่ะ แต่ถ้าหากใครที่ใช้ iPhone 15 หรือ 16 อยู่ถ้าไม่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณแล้วอยากลองอะไรใหม่ ๆ ดูก็รีบไปตำได้เลยค่ะ แต่ถ้าส่วนตัวแล้วหากเทียบสเปคทั้งหมดแล้วอยากเปลี่ยนไหม อันนี้ก็อาจจะยังน้าาา แต่ถ้าเป็นไอโฟนรุ่นที่น่าจับตามองมากที่สุดก็คงต้องยกให้ iPhone Air ที่มาพร้อมกล้องหลัง 1 กล้อง Fusion 48MP ตัวเครื่องทำมาจากไทเทเนียม หนาเพียง 5.64 มม. และน้ำหนักเบา 165 กรัม และรองรับเฉพาะ eSim เท่านั้น แถมยังได้ ชิป A19 Pro มาด้วย ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 39,900 บาท พร้อมความจุ 256GB และสูงสุดที่ 1TB ซึ่งจะบอกว่าเป็นมือถือที่พัฒนามาเพื่อกลุ่มนักธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัว พกพาง่าย น้อยแต่มาก ก็คงไม่ผิดไปทีเดียวค่ะ นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของ iPhone 17, 17 Pro, 17 Pro Max และ iPhone Air คุณสามารถสั่งจองล่วงหน้า (Pre-order) ในประเทศไทยได้ภายในคืน วันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ส่วนวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (เริ่มวางขายหน้าร้าน) คือ วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 ค่ะ เครดิตภาพปก/ภาพประกอบ/วิดีโอ ภาพปก: Apple Hub / Canva: pochlife / sopon473 ภาพประกอบ: Apple Hub: ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 และภาพที่4 วิดีโอ: Apple เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !