รีเซต

ดึงเอสเอ็มอีแสนรายชิงเค้กตลาดจัดซื้อภาครัฐ 1.3 ล้านลบ.

ดึงเอสเอ็มอีแสนรายชิงเค้กตลาดจัดซื้อภาครัฐ 1.3 ล้านลบ.
มติชน
27 มกราคม 2564 ( 03:21 )
86
ดึงเอสเอ็มอีแสนรายชิงเค้กตลาดจัดซื้อภาครัฐ 1.3 ล้านลบ.

เร่งดึงเอสเอ็มอีแสนรายชิงเค้กตลาดจัดซื้อภาครัฐ 1.3 ล้านล้านบาท เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์กลางโชว์สินค้าเอสเอ็มอีให้ช้อปเต็มที่ ย้ำเปิดลงทะเบียนได้ทั้งบุคคลธรรมดา –นิติบุคคล- วิสาหกิจ

 

 

นายมงคล ลีลาธรรม ประธานคณะกรรมการบริหาร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบายสสว. เร่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ขึ้นทะเบียนกับสสว. เพื่อเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐที่มีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาทให้ได้มากที่สุด หลังจากกระทรวงการคลัง ได้ประกาศกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นการกำหนดให้หน่วยงานภาครัฐ ต้องซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไม่ต่ำกว่า 30% ของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่อยู่ในบัญชีรายชื่อดังกล่าว และให้แต้มต่อราคาสูงกว่าเอกชนรายใหญ่ได้ 10% โดยปีนี้ตั้งเป้าให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้ามาลงทะเบียนไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย จากปัจจุบันมีลงทะเบียนเพียง 3,500 ราย

 

นายมงคล กล่าวว่า นอกจากนี้จะให้สสว. ทำแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นตลาดอี – มาร์เก็ตเพลสกลาง เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้นำสินค้าเข้ามาใส่ในแพลตฟอร์มดังกล่าว และให้หน่วยงานภาครัฐ หรือเอกชนทั่วไปที่ต้องการซื้อสินค้าเข้ามาดูสินค้าในแพลตฟอร์มนี้ได้ เนื่องจากขณะนี้แต่ละหน่วยงานแยกกันดู ไม่มีแพลตฟอร์มกลางที่จะสามารถเข้ามาดูได้ เชื่อว่าจะทำให้หน่วยงานภาครัฐเข้าถึงสินค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากขึ้น และยังเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้ามาลงทะเบียนมากขึ้น ครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา

 

 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสสว. กล่าวว่า สสว.ได้ประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศ อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ เอสเอ็มอีดีแบงก์ เพื่อเผยแพร่มาตรการดังกล่าวไปสู่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันธนาคารบางแห่งเตรียมออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อช่วยสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐอีกทางหนึ่งด้วย

 

นายวีระพงศ์ กล่าวว่า เอสเอ็มอี ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว มีทั้งที่อยู่ในรูปแบบนิติบุคคล บุคคลธรรมดา หรือวิสาหกิจชุมชน ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามนิยามเอสเอ็มอี ที่สสว. กำหนด คือ หากอยู่ในภาคการผลิต จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี ส่วนภาคการค้าและบริการ จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อปี ที่สำคัญจะต้องขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการและรายการสินค้าและบริการในระบบที่ สสว. จัดทำขึ้น คือ www.thaismegp.com ซึ่งผู้สนใจสามารถขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

“ตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นับเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่จะเป็นโอกาสสำคัญให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ด้วยมูลค่าที่สูงถึง 1.3 ล้านล้านบาทต่อปี ที่ผ่านมามีบางส่วนเข้าถึงได้ ซึ่งกฎกระทรวงฯ นี้ ได้ให้สิทธิประโยชน์กับเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น กระจายโอกาสให้กับเอสเอ็มอีที่อยู่ในท้องถิ่น กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐเป็นหน่วยจัดซื้อ คัดเลือกเอสเอ็มอีในพื้นที่จังหวัดที่ตั้งของหน่วยงานไม่น้อยกว่า 3 รายก่อน เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีคัดเลือก และการให้แต้มต่อกับเอสเอ็มอี ที่เสนอราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ 10% สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เอสเอ็มอีสามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้”นายวีระพงศ์กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง