กองทุนเด็ดASP-DPLUS ทำผลตอบแทนบวกทุกปี
บลจ. แอสเซท พลัส แนะกองทุนตราสารหนี้ตัวเต็ง ผลตอบแทนไม่เคยติดลบ การันตีด้วยรางวัลมอร์นิ่งสตาร์ ปี 2566 กับกองทุน ASP-DPLUS ชู 3 กลยุทธ์ เลือกตราสารหนี้อย่างเข้มข้น ดูเรชั่นสั้นๆ
นายคมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด หรือ บลจ. แอสเซท พลัส แนะนำการลงทุนในช่วงที่ดอกเบี้ยขาขึ้น และตลาดทุนมีความผันผวนสูงกับ กองทุนเปิด แอสเซทพลัส ตราสารหนี้ เดลี่ พลัส (ASP-DPLUS) ซึ่งเป็น กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Short Term Bond) ผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนกว่า 6 ปี ไม่เคยติดลบ แม้ที่ผ่านมาตลาดจะผันผวนจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและจากปัญหาสงครามรัสเซีย - ยูเครน
*ผลตอบแทนบวกทุกปี
กองทุน ASP-DPLUS ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทางการเงิน เงินฝาก หลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดให้กองทุนลงทุนได้ โดยอาจจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ต่างประเทศ ได้ไม่ 79% กองทุนจะไม่ลงทุนหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ Non-investment grade ตราสารหนี้ Unrated
อย่างไรก็ตามกองทุนอาจมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ Non-investment grade ตราสารหนี้ Unrated ได้เฉพาะกรณีที่ตราสารหนี้นั้นได้รับจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) ในขณะที่กองทุนลงทุนเท่านั้น และอาจมีการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
ASP-DPLUS มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 0.15%, ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.25%, ผลตอบแทนย้อน6 เดือนอยู่ที่ 0.42%, ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 0.73% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 0.83% ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 1.19% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (2 ก.พ. 2560) ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.37% (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566)
*3กลยุทธ์หลักหนุน
นายณัฐพล จันสิวานนท์ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการลงทุน บลจ. แอสเซท พลัส กล่าวว่า กองทุน ASP-DPLUS สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ จากจุดแข็งที่มาจากทีมผู้จัดการกองทุนแล้วยังมาจากกลยุทธ์การลงทุน 3 กลยุทธ์หลัก โดยกลยุทธ์แรก เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นการรักษาระดับความผันผวนในพอร์ตและลดความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางทั่วโลกปรับขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
กลยุทธ์ที่ 2 คือ มีการวิเคราะห์เครดิตตราสารหนี้ด้วยกระบวนการที่เข้มข้น มีการนำโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยงภายในมาช่วยเพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของแต่ละบริษัทที่เราเข้าไปลงทุน รวมทั้งยังมี การให้คะแนนตราสาร (Credit Scoring) โดยวัดจากการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ทำให้เราเลือกลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ที่มีคุณภาพสูง จะเห็นได้ว่า ในปีที่ผ่านมานั้น กองทุน ASP-DPLUS ไม่เคยประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ และยังได้ประโยชน์จากการ reinvestment ในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นอีกด้วย สำหรับ
กลยุทธ์สุดท้าย คือ การแชร์ข้อมูลระหว่างฝ่ายต่างๆ ในบริษัท ซึ่งบลจ. แอสเซท พลัส มีทั้งทีมหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศ มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างรอบด้านเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน และช่วยประเมินจังหวะการลงทุนได้อย่างหลากหลายมิติ ล่าสุด กองทุน ASP-DPLUS ยังได้รับรางวัลกองทุนตราสารหนี้ยอดเยี่ยมปี 2023 จาก Morningstar Thailand Fund Awards 2023 ประเภทกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Short Term Bond)
*กองหุ้นจีนอีกตัวเลือก
นอกจากกองทุนตราสารหนี้แล้ว นี้ บลจ. แอสเซท พลัส ยังแนะนำ กองทุนเปิด แอสเซทพลัส อีโวลูชั่น ไชน่า อิควิตี้ (ASP-EVOCHINA) อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง ด้วยมุมมองการเติบโตของทางเศรษฐกิจของจีนจะฟื้นตัวดีขึ้นหลังผ่อนคลายการควบคุมการแพร่ระบาด จากเดิมกักตัว 10 วัน ลดเหลือ 8 วัน รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่กการเพิ่มสภาพคล่อให้กับผู้ประกอบการอสังหาฯ ไปจนถึงการผ่อนคลายข้อกำหนดการชำระเงินดาวน์สำหรับผู้ซื้อ
ขณะที่ประเด็นความกังวลด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีน- สหรัฐ บลจ. แอสเซท พลัส มองว่ามีพัฒนาการเชิงบวก จากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีการพบปะกันในช่วงที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนคาดหวังว่า ทั้ง 2 ประเทศจะผ่อนปรนความตึงเครียดเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในอนาคต นอกจากนนี้ดัชนี MSCI Chona เทรด Fwd P/E อยู่ที่ 10-11 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 13.5 เท่ากว่า -1SD ขณะที่ EPF GROWTH ปี 2567 โตกว่า 8%