หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องที่ผมพบโดยบังเอิญในขณะที่กำลังเลือกซื้อหนังสือในโซนใกล้ ๆ สิ่งที่ดึงดูดสายตาของผมที่สุด ก็คือสันหนังสือสีขาวสะดุดตาท่ามกลางหนังสือหลากสีรอบข้าง คำกล่าวที่ว่าห้ามเลือกหนังสือจากปกคงใช้กับผมไม่ได้แล้วล่ะครับ เพราะผมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยสีของมันล้วน ๆ หนังสือเรื่อง What Makes You You? เป็นหนังสือในหมวดจิตวิทยาพัฒนาตนเอง เขียนโดยคุณชญาน์ทัต วงศ์มณี หรือถ้าบอกชื่อเป็นนามปากกาก็คือ ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ ดีไซน์ของปก ทั้งหน้า หลัง รวมถึงสันหนังสือ ถูกออกแบบมาในรูปของแชท สังเกตได้จากกรอบข้อความที่มีหัวมน มีการเรียงข้อความสลับซ้าย-ขวาเหมือนคนคุยกันในแชทจริง ๆ ส่วนที่ปกหลังจะมีการเขียนแนะนำหนังสือ คล้ายกันกับปกหลังในหนังสือนิยายทั่วไปที่นำเอาบทน่าสนใจบางส่วนของนิยายออกมาเขียน เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ที่ต้องการจำซื้อหนังสือ แต่สำหรับเล่มนี้ ข้อความที่ปกหลังจะเหมือนการบอกเพียงว่าเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้เรารู้สึกอะไรบ้าง ซึ่งนั่นทำให้ผมอยากลองเปิดเข้าไปอ่านดูครับว่า ถ้าอ่านแล้วจะมีความรู้สึกเดียวกับที่เขากล่าวไว้จริงไหม เนื้อหาของหนังสือจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วนใหญ่ ๆ ส่วนแรก จะมีการพูดถึงความรักในรูปแบบต่าง ๆ ผู้เขียนจะนำเอาความสัมพันธ์ที่มักพบเห็นบ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตอนนี้ที่มีการเข้ามาของเทคโนโลยีมากขึ้น มีการคุยกันผ่านข้อความ และเจอกับตัวจริงน้อยลง ในแต่ละความสัมพันธ์ผู้เขียนจะอธิบายก่อนว่ามันคืออะไร และเราควรทำอย่างไรเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ ซึ่งจะมีการเขียนความสัมพันธ์ที่ทั้งดีและแย่สลับกันไป ในส่วนแรกนี้ผมไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไรที่ทำให้ผมสนใจมากเท่าไหร่ แต่ก็อ่านทุกหน้า จนจบเนื้อหาส่วนแรก เพราะอย่างที่หนังสือได้บอกไว้เลยครับ ว่ามันอ่านเพลิน ไม่เครียด ส่วนที่สอง เริ่มมีการพูดถึงความสัมพันธ์ในที่ทำงานบ้างแล้ว เนื้อหาจะกล่าวถึงพฤติกรรมหลากหลายรูปแบบที่เราสามารถพบเจอได้ในที่ทำงาน หรือการทำงานกลุ่ม อีกทั้งยังมีการกล่าวถึงผลกระทบของสิ่งรอบตัวที่มีต่อตัวบุคคล ในส่วนที่สองนี้ ผมบอกได้เลยว่าอ่านแล้วก็ชวนให้คิดตาม ว่าผมเคยได้เจอคนประเภทนี้มาก่อนมั้ย ตัวผมเองจะเข้าข่ายเป็นคนประเภทที่ว่านี้หรือเปล่า และถ้าผมเป็นคนประเภทนั้นจริง ๆ คนรอบตัวจะคิดว่าผมเป็นคนอย่างไรบ้าง บางครั้งอ่านไปก็ต้องเอาไปเล่าให้เพื่อนฟัง พร้อมกับถามว่าผมเป็นคนแบบนั้นมั้ย สรุปก็คือ ไม่ว่าจะอ่านส่วนไหนก็ชวนให้คิดต่อทั้งนั้นเลยครับ มีทั้งการตั้งคำถามกับตัวเอง แล้วก็ตอบตัวเองไปด้วย ส่วนที่สาม เป็นส่วนที่ผมชอบที่สุดในหนังสือเล่มนี้ เพราะว่ามันมีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำตัวเราเองให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ มีการให้คำแนะนำ ว่าถ้าเราเป็นแบบนี้ ควรพัฒนาตนเองในด้านไหน วิธีไหนบ้างที่จะเราให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้น แต่ถ้าเราพัฒนาตนเองได้ช้า ก็ใช่ว่าจะไม่พัฒนาเลย เหมือนกับว่าหนังสือเล่มนี้เข้าใจคนทุกรูปแบบจริง ๆ ครับ เนื้อหาโปรดที่ผมยังคงนำมาปรับใช้อยู่จนถึงตอนนี้คือการคุยกับ"เป็ดยาง" เพื่อแก้ปัญหาในสิ่งที่หากเราคิดในหัวแล้วมันดูยุ่งยาก แต่บางที่มันอาจจะเแ็นอะไรที่ธรรมดากว่าที่เราคิด ผมคงจะอธิบายได้เพียงเท่านี้นะครับ หากผู้อ่านสนใจก็ลองไปหามาอ่านดูก็ได้ เพราะมันเป็นการกระทำที่ใช้ได้ผลจริง ๆ ครับ (อย่างน้อยก็ใช้ได้ผลกับผมได้แล้วคนนึง) ส่วนที่สี่ แทบจะมีเนื้อหาที่ต่อกับส่วนที่สามเลย มันคือการทำให้เรามองสิ่งรอบตัวใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทำให้เราเห็นถึงความสุขเล็ก ๆ เห็นถึงความหมายของชีวิตหลังจากที่เราได้พัฒนาตัวเองเรียบร้อยแล้ว อะไรทำนองนั้น โดยรวมหนังสือเล่มนี้มีการเรียบเรียงเนื้อหาที่ดีมาก ค่อย ๆ ปูพื้นฐานผู้อ่านจากสิ่งที่เคยพบเจอในชีวิตประจำวัน สร้างขอบเขตการอ่านจากสังคมรอบตัว จากนั้นก็ปรับให้ขอบเขตเล็กลงเรื่อย ๆ กระทั่งผู้อ่านกลับมามองที่ตัวเองใหม่อีกครั้ง สิ่งที่ผมประทับใจอีกอย่างของหนังสือเล่มนี้เลยก็คือ การค้นหาข้อมูลของพวกเขาครับ เพราะยังไงเราก็ต้องมีแหล่งอ้างอิงในการเขียนทฤษฎีทั้งหลายเหล่านี้อยู่แล้ว ตัวผมเองก็ชอบตามเข้าไปอ่านเนื้อหาที่ทางหนังสือได้อ้างอิงมาด้วย ต้องขอชื่นชมในส่วนนี้ครับ สุดท้ายก็ขอฝากหนังสือเล่มนี้ไว้ให้นักอ่านหลาย ๆ ท่านที่ชอบการอ่านอย่างสบายใจ อ่านอย่างผ่อนคลายด้วยนะครับ สำหรับบทความนี้ก็จบลงแล้ว ขอบคุณครับเครดิตภาพภาพปก และภาพประกอบบทความถ่ายโดย ผู้เขียนเครดิตหนังสือหนังสือชื่อ "ทำไมเป็นคนแบบนี้ What Makes You You?" จากสำนักพิมพ์ KOOB เขียนโดย ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !