เพิ่มช่องทางยืนยันตัวตน "แอปพลิเคชันทางรัฐ" ผ่าน 7-Eleven ทุกสาขา
รัฐบาลเพิ่มช่องทางยืนยันตัวตน เพื่อเข้าถึงบริการของหน่วยงานภาครัฐทาง “แอปพลิเคชันทางรัฐ” อำนวยความสะดวกประชาชน ยืนยันตัวตนผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสร้าน 7-Eleven ได้ทุกสาขา
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข่าวดี รัฐบาลเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกประชาชนในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลภาครัฐ สำหรับบริการแอปพลิเคชันทางรัฐ ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ สอดคล้องตามแนวนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการเดินหน้าขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดรัฐบาลดิจิทัล ผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการและการทำงานของภาครัฐ รวมถึงพัฒนาระบบการให้บริการออนไลน์ (e-Service) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้ทุกที่ ทุกเวลา และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน
แอปพลิเคชันทางรัฐ ได้รับการพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เป็นแอปพลิเคชันที่รวบรวมบริการออนไลน์ของหน่วยงานรัฐไว้กว่า 68 บริการ ตอบโจทย์การให้บริการประชาชนที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย อาทิ บริการตรวจสอบสถานะสิทธิเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด บริการตรวจสอบผลคะแนน O-Net จากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ บริการตรวจสอบเครดิตบูโร สิทธิประกันสังคม สิทธิการรักษาพยาบาล รวมถึงบริการตรวจสอบและเช็กยอดเงินสมทบชราภาพ เป็นต้น
โดยในปัจจุบัน ประชาชนที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทางรัฐ และยืนยันตัวตนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ผ่าน 6 ช่องทาง ดังนี้
1. แอปพลิเคชันทางรัฐ
2. ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ
3. แอปพลิเคชัน D.DOPA ของกรมการปกครอง
4. ตู้บุญเติม
5. เคาน์เตอร์ไปราณีย์ไทย (ยกเว้นไปรษณีย์อนุญาต และร้านไปรษณีย์) และช่องทางใหม่
6. เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา กว่า 13,500 สาขา โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว
“รัฐบาลมุ่งพัฒนาดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน พร้อมเปิดโอกาสต่อยอดนวัตกรรม และดิจิทัล จึงเร่งพัฒนาช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้ทุกกลุ่ม เข้าถึง อย่างไรก็ดี ความปลอดภัยแก่ประชาชนก็ยังเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลคำนึงถึง รวมถึงด้านข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้บริการ ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองที่จัดเก็บโดยหน่วยงานภาครัฐ จึงจำเป็นต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลผู้ใช้งาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีการแอบอ้างชื่อไปขอรับบริการ โดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการพัฒนาและเพิ่มช่องทางในการให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีช่องทางที่หลากหลาย ครบวงจร และมั่นใจได้ว่าปลอดภัย” นางสาวรัชดาฯ กล่าว
ที่มา เว็บรัฐบาล
ภาพจาก AFP