ปฏิวัติการสื่อสารใต้น้ำ สหรัฐฯ ทำแอปส่งข้อความหากันใต้น้ำด้วยคลื่นเสียงแทนได้สำเร็จ

หากใครเคยดำน้ำก็จะพบว่าสมาร์ตโฟนที่ติดไปด้วยระหว่างการดำน้ำจะไม่สามารถรับส่งสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตได้ เพราะว่าทั้งสองสัญญาณเป็นสัญญาณวิทยุซึ่งไม่สามารถกระจายสัญญาณในน้ำได้ โดยพื้นฐานหากจำเป็นต้องติดต่อกับโลกภายนอกจำเป็นต้องหาสายเชื่อมต่อไปผิวน้ำ แต่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) เลือกใช้สมบัติทางฟิสิกส์ของคลื่นเสียงมาปฏิวิติการสื่อสารใต้น้ำแทนแนวคิดแบบเดิม

คลื่นเสียงต่างจากคลื่นวิทยุที่สามารถเดินทางในน้ำได้ดีหากมีแหล่งกำเนิดเสียงที่เข้มและแม่นยำพอ เช่น การสื่อสารของโลมา คลื่นโซนาร์ที่เรือประมงและเรือดำน้ำใช้ ต่างจากคลื่นวิทยุที่เมื่อดำน้ำลึกไม่เกิน 10 เมตร คลื่นก็จะถูกน้ำซับสัญญาณและหายไป เรื่องนี้นักวิจัยด้านฟิสิกส์ทุกคนทราบกันดี แต่นักวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตันนั้นได้ต่อยอดคุณสมบัติของคลื่นเสียงเข้ากับอุปกรณ์การสื่อสารที่มีอยู่อย่างสมาร์ตโฟนให้สามารถติดต่อกันได้ ในรูปแบบของแอปพลิเคชัน

แอปพลิเคชันตัวใหม่นี้มีชื่อว่าอควาแอป (AquaApp) จากห้องวิจัยความสามารถสมาร์ตโฟน (Mobile Intelligence Lab) โดยนักศึกษาปริญญาเอกและอาจารย์ที่ปรึกษา ชูแนวคิดอันเรียบง่ายแต่ได้ผลจริง ด้วยการใช้ลำโพงของโทรศัพท์ ปล่อยสัญญาณความถี่สูงเฉพาะเพื่อส่งข้อความ และรับแปลงสัญญาณเป็นข้อความที่แอปพลิเคชันกำหนดไว้ด้วยไมโครโฟนของตัวโทรศัพท์เอง

แม้ว่าจะดูเรียบง่าย แต่การทำงานเบื้องหลังนั้นซับซ้อนอย่างมาก เพราะต้องทำความเข้าใจลักษณะธรรมชาติของการเดินทางด้วยเสียงว่าสามารถผิดเพี้ยนได้จากหลากหลายปัจจัย เช่น การสั่นของมนุษย์ คลื่นใต้น้ำ อุณหภูมิ ผู้พัฒนาต้องให้แอปสามารถเข้าใจความต่างของคลื่นเสียงจากโทรศัพท์กับสัญญาณรบกวนต่าง ๆ รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนการปล่อยคลื่นเสียงให้สื่อสารได้แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนความถี่เสียงก็ตาม 

ในขณะนี้ แอปยังเป็นการส่งข้อความแบบกำหนดลักษณะข้อความล่วงหน้าเท่านั้น เช่น การสั่งให้ส่งข้อความ “ระวังทางขวา” หรือ “อากาศกำลังจะหมด” เพื่อใช้สื่อสารระหว่างกลุ่มนักดำน้ำใต้น้ำด้วยกัน แต่ยังไม่สามารถส่งข้อความแบบอิสระในลักษณะการแชตได้ในตอนนี้

ในการทดสอบภาคสนามในอ่าวที่มีคลื่นแรง ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นอ่าวชิลโชล (Shilshole Bay) ที่อยู่ในเมืองซีแอตเทิล เมืองเดียวกับที่ตั้งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) นั้นพบว่าสามารถใช้ระบบการส่งข้อความดังกล่าวได้ไกลถึง 100 เมตร เพียงพอต่อการสื่อสารในกลุ่มนักดำน้ำ ซึ่งในอนาคต เพียงแค่มีโทรศัพท์กับซองกันน้ำ ก็จะทำให้กลุ่มนักดำน้ำสามารถสื่อสารใต้น้ำได้ ซึ่งทำให้การดำน้ำปลอดภัยมากขึ้น เพราะหลายครั้งอุบัติเหตุใต้น้ำที่อันตรายถึงชีวิตเกิดขึ้นเพียงเพราะไม่สามารถสื่อสารใต้น้ำได้นั่นเอง

ที่มาข้อมูล TechCrunch

ที่มารูปภาพ University of Washington