11 จังหวัดเจอภัยแล้ง เขื่อนหลักน้ำน้อยส่งผลกระทบเกษตรกรทั่วไทย

ประเทศไทยตอนนี้นอกจากจะต้องเจอกับโรคระบาดโควิด-19 แล้ว ล่าสุดวันนี้ 11 มิถุนายน 63 ได้มีหลายพื้นที่ประสบปัญหากับภัยแล้ง น้ำในเขื่อนลดลงจนแห้งขอดทำให้เกษตรกรในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบในการเพาะปลูกไปด้วย โดยจังหวัดที่ประสบปัญหาอยู่ตอนนี้มีถึง 11 จังหวัด คือ นครราชสีมา, ยโสธร, อุทัยธานี, กาญจนบุรี, ลำพูน, เพชรบูรณ์, สระแก้ว, พิจิตร, สุพรรณ, สุรินทร์ และ เลย ซึ่งน้ำในเขื่อนหลักทั้ง 4 ของประเทศมีน้ำน้อยลง จากข้อมูลคลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ ได้เปิดเผยปริมาตรน้ำในเขื่อน ดังนี้ เขื่อนภูมิพล มีปริมาตรน้ำเหลืออยู่ที่ 4,109 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็น 30.52 เปอร์เซ็นต์ ของเขื่อน และนำออกมาใช้ได้เพียงแค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาตรน้ำเหลืออยู่ที่ 3,362 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็น 35.35 เปอร์เซ็นต์ ของเขื่อน และนำออกมาใช้ได้เพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนแควน้อย ปริมาตรน้ำเหลือน้อยเข้าขั้นวิกฤตเพียง 214 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็น 22.78 เปอร์เซ็นต์ ของเขื่อน ออกมาใช้ได้ 18 เปอร์เซ็นต์ และเขื่อนป่าสักฯเหลือน้ำน้อยที่สุดเพียงแค่ 111 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็น 11.53 เปอร์เซ็นต์ ของเขื่อน ออกมาใช้ได้เพียงแค่ 11 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ข้อมูลจาก : คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ

ซึ่งผลกระทบจากภัยแล้งในครั้งนี้ ทำให้น้ำล่องแพห้วยกระทิงในจังหวัดเลยแห้งขอด การท่องเที่ยวแย่ลง รวมไปถึงเกษตรกรที่ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ หรือบางรายการการเพาะปลูกเสียหายหนักก็มี โดยล่าสุดทางรัฐได้หาทางแก้ไขปัญหาโดยมีโครงการน้ำบาลดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เริ่มดำเนินการนำร่องให้กับ 6 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี, ลำพูน, เพชรบูรณ์, ยโสธร, เลย และสระแก้ว ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้น้ำบาดาลควบคู่ไปกับการใช้น้ำผิวดินได้อย่างไม่ขาดแคลน และเพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีน้ำใช้เพื่อการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย