เผยอาการล่าสุด 'น้องอุ้ม' พยาบาลอุ้มผาง ยังสาหัส ธารน้ำใจหลั่งไหลบริจาคเลือด

เผยอาการล่าสุด 'น้องอุ้ม' พยาบาลอุ้มผาง ยังสาหัส ต้องผ่าตัดสมอง ธารน้ำใจหลั่งไหลทหารพราน-ชาวบ้านแม่สอดจำนวนมาก ช่วยบริจาคเลือดให้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุรถตู้พยาบาลฉุกเฉินของโรงพยาบาลอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ชนกับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อบนถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง เขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ส่งผลทำให้รถพยาบาลฉุกเฉินโรงพยาบาลอุ้มผางพังยับเยิน และทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 4 รายตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

ซึ่งเป็นที่น่าตกใจต่อความรู้สึกของชาวบ้านชายแดนอำเภออุ้มผาง จากอุบัติเหตุครั้งนี้ เนื่องจาก น.ส.ปุณยวีร์ ศรีดวงแปง หรือ น้องอุ้ม อายุ 25 ปี พยาบาลปฎิบัติการประจำโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งนั่งดูแลผู้ป่วยมากับรถพยาบาลคันเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บศีรษะกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงและถูกอัดติดคาซากรถพยาบาลอาการสาหัส ต้องช่วยเหลือนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สอดเป็นการด่วน

จนกลายเป็นกระแสธารน้ำใจที่ดังไปทั่วประเทศ เนื่องจากมีการโพสต์ข้อความผ่านโลกโซเซียลขอเชิญบริจาคเลือดเพื่อใช้ช่วยชีวิต น.ส.ปุณยวีร์ ที่ต้องผ่าตัดสมองอย่างเร่งด่วน

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลแม่สอด พบว่าที่ห้องบริจาคโลหิตของโรงพยาบาลแม่สอด พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 และชาวอำเภอแม่สอดอีกจำนวนมากไพร้อมใจกันเดินทางมาร่วมบริจาคเลือดให้น้องอุ้ม อย่างไม่ขาดสาย

จ.ส.อ.ทินกร ทิพย์แก้ว นายสิบกิจการพลเรือนหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนทหารพราน ฉก.ทพ.ที่ 35 กว่าสิบนายเห็นข้อความโพสต์ขอบริจาคเลือดเพื่อช่วยน้องอุ้มจึงรีบรวมตัวกันออกเดินทางออกจากพื้นที่แนวชายแดนแม่สอด เพื่อตั้งใจมาร่วมบริจาคเลือดให้น้องอุ้ม และขอส่งมอบกำลังใจน้องอุ้มและเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยอีกหลายคนที่บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้ให้ทุกคนปลอดภัยด้วย

ส่วนอาการล่าสุดของน้องอุ้ม ล่าสุดแพทย์นำตัวเข้าห้องผ่าตัดทางด้านสมอง เนื่องจากมีเลือดไหลออกจากสมองที่ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งโดยขณะนี้อาการน้องอุ้มยังไม่น่าไว้วางใจและยังรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤตหรือห้องไอซียู ของโรงพยาบาลแม่สอด มีญาติและเพื่อนพยาบาลอีกหลายคนต่างมาให้กำลังใจน้องอุ้มจนเต็มโรงพยาบาลแม่สอด

ด้าน น.ส.ธัญจิรา เพ็ญวุฒิเกียรติ เพื่อนสนิทน้องอุ้ม และเป็นเจ้าหน้าที่องศ์กรเอกชนที่ช่วยเหลือผู้ป่วยแนวชายแดนอำเภออุ้มผาง กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต่อน้องอุ้ม เนื่องจากเกิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่เพื่อเหลือต่อชีวิตผู้ป่วยผู้ยากไร้ที่อ.อุ้มผาง ที่การเดินทางยากลำบากและแสนยาวไกลบนดอยสูงชัน

ขณะนี้ตนซึ่งทำงานร่วมกับน้องอุ้มมาโดยตลอด นำกลุ่มเพื่อนน้องอุ้มมาร่วมบริจาคเลือดพร้อมอธิฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทุกศาสนาขอให้ช่วยคุ้มครองให้น้องอุ้มให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็วเพื่อน้องอุ้มจะได้กลับไปทำงานที่โรงพยาบาลอุ้มผาง ดังที่น้องอุ้มสมัครใจขอทำงานในพื้นที่ห่างไกลแนวชายแดนเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ต่อไป