วัดงงไฟไหม้ศาลาไม่มีใครรู้ ไหม้เองดับเอง มูลค่าเสียหายกว่า 5 ล้าน
พระสงฆ์ พร้อมจิตอาสาช่วยกันทำความสะอาดศาลาวัดท้ายเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังเกิดเพลิงไหม้โดยที่ไม่มีใครรู้เลย ไหม้เองดับเอง มีพระพุทธรูปหล่อด้วยทองเหลืองหลายองค์ถูกเพลิงเผาวอด ตัวศาลาได้รับความเสียหายรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ภาพความเสียหายที่เกิดจากเพลิงไหม้ภายในศาลาการเปรียญ “ศรัทธาโสภณราษฎร์รังสรรค์” ของวัดท้ายเมือง หมู่ที่ 2 ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่พระครูโสภณปัญญาวรวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดท้ายเมือง อดีตเคยอนุญาตให้เทศบาลตำบลหลักเมืองใช้เป็นศูนย์แยกกักตัว หรือศูนย์พักคอยในชุมชนให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ เมื่อปี 2564
ที่คาดว่าเหตุเพลิงไหม้ขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 27 ที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีใครรู้เรื่องเลย ไหม้เอง และดับเอง สร้างความเสียหายกับสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ด้านใน ทั้งพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลืองปางต่างๆ เกือบ 10 องค์ ได้รับความเสียหาย บางองค์เหลือแต่เศียร บางองค์บิดเบี้ยวจากการถูกความร้อนของไฟ ข้าวของเครื่องใช้ โต๊ะ เก้าอี้ พัดลม พรมปูพื้น ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่อยู่ด้านมุมของอาคารจะประดิษฐานของพระพุทธรูป โต๊ะหมู่บูชาไว้ ได้รับความเสียหายทั้งหมด และยังคงมีฝ้า เพดาน ผนัง และอื่นๆ ถูกเพลิงเผาวอดเหลือแต่ซาก
พระวชิรศักดิ์ ธีระปัญโญ พระลูกวัดท้ายเมือง ให้ข้อมูลว่า ตนเองเป็นผู้ดูแลศาลาการเปรียญหลังนี้เป็นประจำ ทราบข่าวเพลิงไหม้ช่วงประมาณหลังเพลไปแล้ว เพราะหลวงพี่ให้ลูกศิษย์วัดเข้าไปเก็บพรมผืนใหญ่หน้าโต๊ะหมู่บูชา แต่พอเข้ามาพบว่าเพลิงไหม้และดับไปแล้วโดยไม่มีใครรู้เรื่องเลย ลูกศิษย์วิ่งไปบอกด้วยความตกใจว่าไฟไหม้ ถึงได้รู้ว่าเกิดเพลิงไหม้ที่ศาลา โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดเพลิงไหม้ขึ้นตอนไหน
สันนิษฐานกันว่าเหตุน่าจะเกิดประมาณตี 2-3 และมาดับเองช่วงสว่าง ประหลาดมากที่ไฟไหม้เองและดับเอง ไม่ลุกลามไปศาลาหลังอื่นอีกด้วย โดยจุดเกิดเหตุคาดว่ามาจากเสาต้นหนึ่งที่อยู่ด้านใน และลุกลามไปใกล้ๆ จุดที่ได้มีเครื่องเสียงไว้พร้อมกับพัดลม
ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยตนเองยืนยันว่าไม่มีการจุดธูปเทียนในศาลานี้แน่นอน เพราะเป็นผู้ดูแลศาลาแห่งนี้อยู่ตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานกันว่าอาจเกิดจากน้ำฝนที่รั่วซึมมาจากเพดานลงมาโดนสายไฟฟ้า จนเกิดไฟฟ้าชอร์ตก็เป็นได้
ต่อมา นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ นายอำเภอเมืองราชบุรี พร้อมด้วย น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ และนายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง พร้อมหน่วยทหารจากกรมการทหารช่าง และหน่วยทหารจากมณฑลทหารบกที่ 16 นายกุลฑล ปูรณวัฒนกุล ประธานเครือข่ายบิสคลับประเทศไทย พร้อมจิตอาสา ประชาชนในพื้นที่ ได้นำไม้กวาดและอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปช่วยกันเก็บกวาด ทำความสะอาด เคลื่อนย้ายเก้าอี้ และอุปกรณ์บางส่วนที่ยังใช้การได้ออกมากองรวมกันไว้ ซึ่งจากการประเมินความเสียหาย เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท เพราะมีโต๊ะมุกราคาหลายแสนบาทที่อยู่ด้านหน้าพระประธานถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ซึ่งทางวัดได้เตรียมที่จะจัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อนำเงินมาปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายเร็วๆ นี้