จับตาฤดูเฮอริเคนปี 68 สหรัฐฯคาดรุนแรงกว่าที่เคย

นักวิทยาศาสตร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาเตือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22 พ.ค.68) ว่า ฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกประจำปี 2568 อาจมีความรุนแรงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต โดยคาดว่าจะมี พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ 3 ถึง 5 ลูก ที่มีความเร็วลมอย่างน้อย 111 ไมล์ หรือ 179 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับอันตรายสูง

สำนักงานสภาพภูมิอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NWS) คาดการณ์ว่า ฤดูพายุซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 มิถุนายน และสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ จะก่อให้เกิด พายุโซนร้อนที่มีชื่อเรียกจำนวน 13 ถึง 19 ลูก โดยมีความเร็วลมขั้นต่ำ 62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในจำนวนนี้คาดว่าจะมี 6 ถึง 10 ลูก ที่จะพัฒนาเป็นพายุเฮอริเคนเต็มรูปแบบ

“เคน เกรแฮม” ผู้อำนวยการของ NWS ให้ข้อมูลว่า อุณหภูมิพื้นผิวทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความรุนแรงและจำนวนของพายุในฤดูกาลนี้ ซึ่งตรงกับรายงานของนักอุตุนิยมวิทยาทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ต่างก็ออกพยากรณ์ในแนวทางเดียวกัน

ด้านมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโด ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันวิจัยด้านพายุชื่อดัง ได้เผยข้อมูลเมื่อเดือนเมษายนว่า ฤดูพายุเฮอริเคนปีนี้จะสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยคาดว่าจะมี พายุโซนร้อนที่ได้รับการตั้งชื่อ 17 ลูก และในจำนวนนี้จะมี พายุเฮอริเคน 9 ลูก รวมถึง พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ 4 ลูก

ขณะเดียวกัน บริษัท AccuWeather ซึ่งเป็นสื่อเอกชนด้านการพยากรณ์อากาศของสหรัฐฯ ก็ได้ออกคาดการณ์เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่าจะเกิด พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ 3 ถึง 5 ลูก จากพายุเฮอริเคนทั้งหมด 7 ถึง 10 ลูก และ พายุโซนร้อน 13 ถึง 18 ลูก

สำหรับฤดูพายุเฮอริเคนในปีที่ผ่านมา (2567) ถือเป็นหนึ่งในฤดูที่รุนแรงและสร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมี พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ 5 ลูก จากพายุเฮอริเคนทั้งหมด 11 ลูก และมีพายุที่ได้รับการตั้งชื่อรวม 18 ลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 427 ราย และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าสูงถึง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้วยแนวโน้มที่ชัดเจนว่าฤดูพายุเฮอริเคนปี 2568 จะทวีความรุนแรงขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับมืออย่างจริงจัง และติดตามข้อมูลอัปเดตจากหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดตลอดฤดูกาล