รีเซต

หัวเว่ยหันลงทุนรัสเซีย หัวเรือเผยสหรัฐฯคว่ำบาตรทำธุรกิจดิ้นรน

หัวเว่ยหันลงทุนรัสเซีย หัวเรือเผยสหรัฐฯคว่ำบาตรทำธุรกิจดิ้นรน
ข่าวสด
31 สิงหาคม 2563 ( 14:01 )
149
หัวเว่ยหันลงทุนรัสเซีย หัวเรือเผยสหรัฐฯคว่ำบาตรทำธุรกิจดิ้นรน

หัวเว่ยหันลงทุนรัสเซีย - วันที่ 31 ส.ค. เซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์รายงานว่า หัวเว่ย ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกจากประเทศจีน เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการย้ายฐานการลงทุนจากสหรัฐอเมริกาไปยังรัสเซีย หลังต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

https://www.youtube.com/watch?v=j2HwN4dxdgE

 

นายเหริน เจิ้งเฟย ซีอีโอและผู้ก่อตั้งหัวเว่ย กล่าวยอมรับว่า หัวเว่ยเผชิญกับภาวะดิ้นรนหลังทางการสหรัฐขึ้นบัญชีเป็นเอกชนที่ไม่พึงประสงค์ และบรรดาธุรกิจของสหรัฐถูกห้ามไม่ให้ทำมาค้าขายกับหัวเว่ย ตามดำริของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ซึ่งอ้างว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของสหรัฐ เพราะอาจเป็นช่องทางให้รัฐบาลจีนเข้ามาสอดแนมในสหรัฐได้

 

นายเหริน กล่าวว่า หัวเว่ยยืนกรานปฏิเสธข้อครหานี้เสมอมา กาาคว่ำบาตรที่เกิดขึ้นทำให้หัวเว่ยต้องย้ายการลงทุนในสหรัฐไปไว้ที่รัสเซียแทน ด้วยการเพิ่มการลงทุนในรัสเซีย เพิ่มปริมาณนักวิจัยและพัฒนาในรัสเซีย รวมถึงเพิ่มค่าตอบแทนให้นักวิจัยด้วย

 

เหริน เจิ้งเฟย ซีอีโอหัวเว่ย

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังผลกำไรไตรมาสที่สองปีนี้ส่งผลให้หัวเว่ยกลายเป็นผู้ผลิตและพัฒนาสมาร์ตโฟนอันดับหนึ่งของโลก ท่ามกลางสถานการณ์ที่หัวเว่ยตกเป็นเหยื่อในเกมการเมืองระหว่างสหรัฐกับจีน ที่กำลังมีความขัดแย้งกันในแทบทุกมิติ

 

นายริชาร์ด อู๋ เฉิงตง รองประธานด้านกลุ่มธุรกิจผู้บริโภค เคยกล่าวยอมรับว่า หัวเว่ยอาจไม่สามารถนำชิพประมวลผล (SoC) รุ่นล่าสุดในตระกูล คิริน มาใช้ในสมาร์ตโฟนเรือธงของค่ายปีนี้ได้ เนื่องด้วยปัญหาจากการคว่ำบาตรของทางการสหรัฐ

 

นายริชาร์ด ระบุว่า หัวเว่ย ยังอยู่ระหว่างการหาหนทางเพื่อบริหารจัดการกับปัญหาด้านการผลิต SoC ของทางค่าย ขณะที่นายเหริน ยืนยันว่า หัวเว่ย จะต้องยังคงยึดมั่นในการปรับปรุงตัวเองและเปิดใจรับสิ่งใหม่

 

"ถ้าหากคุณอยากจะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมั่นคง คุณก็ต้องเรียนรู้จากทุกคนเสมอ แน่นอนว่ารวมถึงศัตรูของคุณด้วยครับ" เหริน ระบุ

ด้านไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า หัวเว่ย มีแผนจะหันไปมุ่งพัฒนาธุรกิจด้านคลาวด์ที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตสูงด้วย โดยธุรกิจด้านนี้หัวเว่ยยังสามารถดำเนินได้ตามปกติในสหรัฐฯ และมีขีดความสามารถในการแข่งขันกับธุรกิจคลาวด์สหรัฐได้อย่างเท่าเทียม

 

ส่วนสถานการณ์ในสหรัฐนั้น บรรดาผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ยังอยู่ระหว่างความพยายามหารือกับรัฐบาลสหรัฐ เพื่อให้ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อหัวเว่ย เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกตน เช่น ควอลคอมม์ ซึ่งมีหัวเว่ยเป็นลูกค้าอันดับหนึ่ง และกูเกิ้ล ที่กำลังสูญเสียปริมาณผู้ใช้จากการที่หัวเว่ยไม่สามารถเข้าถึงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้เต็มที่ รวมถึงมีเดียเทค จากไต้หวัน ที่ต้องอาศัยใบอนุญาตจากสหรัฐ ในการส่งชิพให้กับหัวเว่ย

 

"นักการเมืองบางคนในสหรัฐต้องการทำลายหัวเว่ยครับ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็ไม่เกลียดชังสหรัฐเค้าหรอกครับ เพราะเป็นเรื่องการเมือง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจตนารมย์ของบรรดาคู่แข่งของเรา หรือชาวอเมริกันเลย" ซีอีโอหัวเว่ย ระบุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง