กบข.ปรับพอร์ตลงทุน เพิ่ม “ทองคำ-น้ำมัน” ลดเสี่ยงสงคราม-ดอกเบี้ย

#ทันหุ้น - กบข.ปรับพอร์ตลงทุน ชี้ความเสี่ยงปัจจัยภายนอกพุ่ง ทั้งปัญหาสงครามอิหร่าน การเลือกตั้งในต่างประเทศ และอัตราดอกเบึ้ย โดยลดการลงทุนในตลาดทุน และเพิ่มการลงทุนในทองคำ น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ จ่อถกบอร์ดเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับสมาชิก มั่นใจปีนึ้ผลตอบแทนดี ล่าสุดอยู่ที่ 2-3%

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)เปิดเผยว่า กบข.ลดการลงทุนในสินทรัพย์ที่อาจได้รับผลกระทบจากสงคราม และเพิ่มการลงทุนทองคำและน้ำมัน เพื่อปิดความเสี่ยง 

“การจัดการการลงทุนในปีนี้ ยากกว่าปีที่แล้ว เพราะมีความเสี่ยงจากสงคราม และมีการเลือกตั้งในหลายประเทศ รวมถึงมีความไม่แน่นอนในเรื่องทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น ในปีนี้เราจึงจะปรับสัดส่วนการลงทุน ลดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากสงคราม และลงในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เช่น ทองคำและน้ำมัน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยปิดความเสี่ยง ซึ่งปัจจุบันในพอร์ตของ กบข.มีทองคำและน้ำมันอยู่ราว 5% ” นายทรงพล กล่าว

สำหรับปีนี้ กบข.ลดการลงทุนในตลาดทุนไปบางส่วน เพราะว่า ตลาดทุนเกิดความไม่แน่นอน จึงลดความเสี่ยงในตลาดทุนลงไปบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ลงทุนในตลาดทุนเลย

ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ย ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐไม่มีความชัดเจน ทำให้เกิดความลังเลในเรื่องของการลงทุนว่าควรจะลงทุน

อย่างไรก็ตาม การที่เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ก็แปลว่า เศรษฐกิจของสหรัฐไม่ได้แย่มาก และแปลว่าตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัวหรือดีขึ้น ซึ่งผลกระทบของสงครามในตะวันออกกลาง กับเศรษฐกิจในสหรัฐอาจแยกออกจากกัน ดังนั้นการลงทุนในตลาดสหรัฐยังดีอยู่ ซึ่ง กบข.ก็มีการลงทุนในตลาดสหรัฐด้วย

สำหรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น นายทรงพล กล่าวว่า สภาพของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันกับผลการดำเนินการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด โดยบริษัทจดทะเบียนยังสามารถทำกำไร มีการจ่ายเงินปันผล  หลายบริษัทยังอยู่ในทิศทางที่ดี แม้ว่ามีหลายบริษัทที่มีมูลค่า(ตลาด) ต่ำกว่า Book ซึ่งไม่ได้แปลว่า สถานะคุณภาพการบริหารจัดการของบริษัทไม่ดี  แต่นักลงทุนยังมองผลตอบแทนของราคาหุ้น มากกว่าเงินปันผล ดังนั้นต้องให้เวลาตลาดหุ้นไทยในการปรับตัว ส่วนปัจจัยสงครามที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยนั้น ในทางตรงข้ามหากเกิดสงครามจริง ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตอาหาร ก็ยังสามารถส่งออกอาหารได้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่จำเป็นในช่วงสงคราม

สำหรับเป้าหมายการลงทุนของ กบข.ในปีนี้ กำหนดเป้าหมายในสามตัวคือ 1.ผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่ง กบข.ไม่ได้ดูผลตอบแทนแบบรายปี เพราะเราเป็นกองทุนที่ลงทุนในระยะปานกลางถึงยาว ดังนั้น กบข.กำหนดผลตอบแทนการลงทุนโดย ใช้ค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อ 10 ปี บวกไม่น้อยกว่า 2% เป็นเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน

ทั้งนี้ ปีที่แล้ว กบข.มีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ 1.48 %  และมีสินทรัพย์ในพอร์ตอยู่ 1.3 แสนล้านบาท มีสมาชิกรวม 4 แสนคน  สำหรับในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างไม่เป็นทางการ อยู่ที่ราว 2-3%