รีเซต

วิกฤตฝุ่น PM2.5 คนเชียงใหม่ป่วยโรคทางเดินหายใจเพิ่ม เข้ารพ. แล้วกว่า 3 หมื่นคน

วิกฤตฝุ่น PM2.5 คนเชียงใหม่ป่วยโรคทางเดินหายใจเพิ่ม เข้ารพ. แล้วกว่า 3 หมื่นคน
TNN ช่อง16
21 มีนาคม 2567 ( 07:33 )
31
วิกฤตฝุ่น PM2.5 คนเชียงใหม่ป่วยโรคทางเดินหายใจเพิ่ม เข้ารพ. แล้วกว่า 3 หมื่นคน

จากปัญหามลพิษทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM 10) และฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ที่เป็นปัญหาเกิดขึ้นกับจังหวัดในภาคเหนือ ซึ่งขณะนี้เกินค่ามาตรฐานในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน พะเยา และน่าน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน


นายแพทย์ บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ( 1 ม.ค.-15 มี.ค. 67) ด้วยผลกระทบจาก PM 2.5 แล้วทั้งสิ้น จำนวน 30,339 คน มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในช่วงเดียวกันของปีก่อน 1 เท่าตัว (1 ม.ค.-31 มี.ค. 66 จำนวนผู้ป่วย 12,671 คน) ส่วนใหญ่พบมีอาการของโรคภูมิแพ้กำเริบ เยื่อบุจมูกอักเสบ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เยื่อบุตาอักเสบ โรคหืด เลือดกำเดาไหล โรคถุงลมโป่งพอง 


ฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกิดอาการไอ จาม แสบจมูก หายใจลำบาก เคืองตา คันผิวหนัง และในระยะยาว จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ สมรรถภาพปอดลดลง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง รวมทั้งมีผลต่อการตั้งครรภ์ เช่น ทารกคลอดก่อนกำหนดและมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ ทารกตายในครรภ์ พัฒนาการหลังคลอดไม่สมบูรณ์


นอกจากนี้ ฝุ่น PM 2.5 ยังเป็นมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อการเจ็บป่วยที่รุนแรง ทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันของระบบการหายใจและระบบต่างๆ ทั่วร่างกาย มีผลต่อโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดเฉียบพลัน และโรคถุงลมโป่งพอง โดยอาจทำให้มีอาการเพิ่มขึ้น หรือเกิดการกำเริบเฉียบพลัน ขอให้ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอยู่เดิมสังเกตอาการ หากมีอาการเพิ่มขึ้น หรือมีการควบคุมโรคแย่ลง มีอาการกำเริบรุนแรง ขอให้รีบพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินทันที


ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว โดยเริ่มจากตนเองไม่เผาทั้งในบ้านและในที่โล่งแจ้ง ติดตามระดับฝุ่น PM 2.5 หากมีค่าเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง หากจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ให้ใส่อุปกรณ์หรือหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ชนิด N95 โดยให้อยู่นอกอาคารให้สั้นที่สุด ให้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้านหรือสถานที่ที่ปิดหน้าต่างและประตูอย่างมิดชิด ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5


ข้อมูลจาก:  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่

ภาพจาก:  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง