MTCลุยขยายพอร์ตสินเชื่อ ล็อกเป้าสิ้นปี67โต15-20%

#MTC #ทันหุ้น– MTC ปลื้มแผนคัดกรองลูกค้าอย่างเข้มข้น หนุนให้คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น ช่วยปรับลดต้นทุนการตั้งสำรองเครดิตลดลง ทั้งยังพิจารณาปรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกัน – สินเชื่อไม่มีหลักประกันให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา และสอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้า มั่นใจพอร์ตสินเชื่อเติบโตทุกไตรมาส ชนเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีพอร์ตโต 15-20% ด้านโบรกคาดการณ์กำไรโค้งสองโต 13% YoY แนะ “ซื้อ” เป้า 50 บาท

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์พอร์ตสินเชื่องวดไตรมาส 2/2567 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 1/2567 (QoQ) ที่พอร์ตสินเชื่อรวมแตะที่ระดับ 100,133.3 ล้านบาท โดยยังคงสามารถควบคุมสัดส่วนหนี้เสีย (NPL) ให้อยู่ในกรอบที่ตั้งไว้ทั้งปี 2567 ที่ 3.2%หนุนจากกลยุทธ์การเพิ่มหลักเกณฑ์การพิจารณาสัดส่วนการให้สินเชื่อได้ (LTV) ควบคู่กับการติดตามทวงถามอย่างใกล้ชิด

พร้อมกันนี้บริษัทยังคงแผนการขยายสาขาเข้าสู่พื้นที่ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/2567 มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีกราว 250 สาขา เพื่อขยายฐานลูกค้า ควบคู่กับการเพิ่มศักยภาพในการติดตามทวงถาม โดยบริษัทยังคงเป้าพอร์ตสินเชื่อทั้งปี 2567 เติบโตราว 15-20% YoY ควบคู่กับการควบคุมต้นทุนการตั้งสำรองความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) ในกรอบ 3.5%และกรอบค่าใช้จ่ายในการบริหารงานอยู่ในสัดส่วนราว 46-47% ขณะที่สัดส่วนอัตราดอกเบี้ยจ่ายจะยังคงอยู่ในกรอบ 4-4.50% จากการบริหารแหล่งเงินในสัดส่วนที่เหมาะสม ทั้งการกู้ยืมสถาบันการเงินทั้งในประเทศ – ต่างประเทศ และการออกหุ้นกู้

ลุยขยายพอร์ตสินเชื่อ

“ปกติงวดไตรมาส 1 จะเป็นไตรมาสที่ผลการดำเนินงานต่ำที่สุดของปี แต่การที่ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทเติบโตได้ ควบคู่กับการควบคุมต้นทุน ส่วนสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างประเทศบริษัทได้รับเงินงวดแรกแล้วที่ 92 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือราว 280 ล้านบาท ยังมีวงเงินให้ทยอยเบิกจ่ายต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 เป็นสัญญาณที่ดีว่าพอร์ตสินเชื่อจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องทุกไตรมาส และแตะเป้าที่ 15-20%”

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ ควบคู่กับการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง ควบคู่กับการบริหารจัดการสัดส่วนผลิตภัณฑ์ระหว่างสินเชื่อมีหลักประกัน กับสินเชื่อไม่มีหลักประกันอย่างเหมาะสม เพื่อสนับสนุนรายได้ – กำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างยั้งยืน

“บริษัทพิจารณาสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อมีหลักประกัน – สินเชื่อไม่มีหลักประกันอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในแต่ละช่วง เพื่อบริหารอัตราดอกเบี้ยรับให้เติบโตในระดับที่เหมาะสม โดยหลังจากการปรับกลยุทธ์การพิจารณาศักยภาพการผ่อนชำระของลูกค้ามาต่อเนื่องทั้งปี 2566 ที่ผ่านมา ก็ส่งผลต่อคุณภาพสินทรัพย์ในปี 2567 อย่างมีนัยสำคัญ”

คาดโค้งสองกำไรโตต่อ

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)คาดการณ์การ MTC จะรายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2567 ที่ 1.4พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และเพิ่มขึ้น 4% QoQ หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อ และการตั้งสำรองที่ลดลงจะกลบผลกระทบของ NIM ที่ลดลง และ 4% Q0Q (การขยายตัวของสินเชื่อจะกลบผลกระทบของ NIM ที่ลดลง

เบื้องต้นยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2567 ที่ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY หนุนจากคุณภาพสินทรัพย์ MTC ที่จะปรับตัวดีขึ้น จากความเข้มงวดในการคัดกรองสินเชื่อสำหรับสินเชื่อใหม่ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566และวางแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่การให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ในกลุ่มบริการสินเชื่อรายย่อย โดยยังคงอัตราการตั้งสำรองในปี 2567 อยู่ที่ 3.3% สดลง 36bps YoY จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 50 บาท