HARN อัดงบลงทุน 80 ล้าน ผุดสินค้ามาร์จิ้นสูงอัพยอด

#HARN #ทันหุ้น – “วิรัฐ  สุขชัย” หัวเรือใหญ่ HARN ทุ่มงบลงทุน 80 ล้านบาท คัดสินค้าใหม่ด้านนวตกรรมมาร์จิ้นสูงอัพยอดขาย โชว์แบ็กล็อกแน่น 400 ล้านบาท เกาะติดโปรเจ็กต์ยักษ์ไตรมาส 1/2567 ชี้อุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงไฟฟ้าดีมานด์ล้น

นายวิรัฐ  สุขชัย  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HARN เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% หรือมีรายได้แตะที่ระดับ 1,438 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากทุกธุรกิจ หรือทุกกลุ่ม BU สำหรับกลยุทธ์การเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ บริษัทจะหาสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น เนื่องจากสินค้าเดิม ทิศทางการเติบโตอาจจะเป็นไปได้เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

** เล็งสินค้าทำเงิน

ทั้งนี้บริษัทยังมองหาสินค้าใหม่ในหมวดระบบปรับอากาศ ท่อ และการตลาดเพื่อให้ยอดขายเติบโตสูงขึ้น เนื่องจากสินค้าทั้ง 2 กลุ่ม บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ค่อนข้างน้อย และมองอุตสาหกรรมปรับอากาศมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีดีมานด์สูง โดยปัจจุบันผู้บริโภค องค์กร หรือหน่วยต่างๆ มองหานวัตกรรมที่กำจัดฝุ่น ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนา และนำสินค้ากลุ่มนี้เข้ามาจำหน่าย เชื่อว่าในอนาคตกลุ่มระบบปรับอากาศ มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้สูงขึ้น จากนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

สำหรับปี 2567 บริษัทจะเน้นการลงทุน การหาสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้านวัตกรรม ซึ่งมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง โดยวางงบงทุนไว้ที่ 70-80 ล้านบาท เพื่อนำสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่าย

อย่างไรก็ตามทิศทางปี 2567 คาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยบริษัทมีระดับ Backlog หรืองานรอส่งมอบ และรอรับรู้รายได้กว่า 400 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างติดตามงานโครงการใหญ่ โดยในไตรมาส 1/2567 บริษัทยื่นประมูลงานใหญ่อยู่ 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการขนาด หรืออยู่ในหลักสิบล้านบาท โดยส่วนใหญ่ยังเป็นสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์และการติดตั้งเครื่องดับเพลิง

** ดีมานด์เพิ่มขึ้น

ขณะที่บริษัทเห็นภาพอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงไฟฟ้ามีดีมานด์ ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และบริษัทพยายามเข้าถึงการขายสินค้า และการบริการในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น เพราะจะช่วยเพิ่มยอดขายกลุ่มอุปกรณ์ดับเพลิงให้มีปริมาณมากขึ้น

ส่วนธุรกิจหรือการอุปกรณ์ทำความเย็น บริษัทมีโครงการใหญ่ในมือ และจะทยอยส่งมอบในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป ส่วนธุรกิจเครื่องพิมพ์ดิจิทัล ยังมีงานเข้ามาให้ทำอย่างต่อเนื่อง คาดแต่ละธุรกิจจะเติบโตได้ตามแผน

ขณะที่ผลประกอบการปี 2566 บริษัทสามารถทำกำไรได้ที่ 114.04 ล้านบาท เทียบกับปี 2565 ที่ 88.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 28.45% และสามารถทำรายได้ได้ถึง 1,326.23 ล้านบาท เทียบกับปี 2565 ที่ 1,242.29 เพิ่มขึ้น 83.94 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 6.76%

นายวิรัฐ  กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะเดินหน้าลงทุน เพื่อลดต้นทุนองค์กร โดยการติดตั้งโซลาร์เพิ่มเติมในเฟสที่ 2  จากเฟสแรกติดตั้งโซลาร์เซลล์และช่วยประหยัดพลังงาน หรือค่าไฟได้เดือนละ 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน ส่วนเฟสที่ 2 คาดจะช่วยลดค่าไฟได้ 1.2 แสนบาทต่อเดือน นอกจากนี้จะทยอยเปลี่ยนรถเป็นรถไฟฟ้าอีวี เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน จากปัจจุบันเปลี่ยนแล้ว 1-2 คัน และจะพยายามเปลี่ยนให้ได้ปีละ 5 คัน