ที่บ้านหนิงทำนามาแต่โบราณรุ่นทวดเทียด ก็ทำนามานานมากๆ แต่ครอบครัวหนิงพ่อกับแม่ก่อนหน้านี้ไปทำงานที่ กทม และพ่อเองก็เป็นทนายจนถึงจุดที่บรรลุเป้าหมายชีวิตหลายเรื่อง555 ชีวิตมันยากเย็นนะคะ ทิ้งทุกสิ่งแล้วมาเป็นชาวนาตามรอยต้นตระกูลกันไปค่ะ มองดูแล้ว จริงๆตอนนี้ที่บ้านแต่ละคนเรียนในสิ่งที่ควรเรียนใช้ชีวิตตามที่เราได้เรียนมาระยะหนึ่ง แล้วก็ถอยออกมากันทั้งบ้านค่ะ ทั้งทนาย นักกฎหมาย นักบัญชี สถาปนิก ตอนนี้เลิกทำอาชีพที่เรียนมากันทุกคนเลยค่ะ เพราะเราพอแล้วเราต้องการความสุขมากกว่าเงินทอง แต่เงินทองก็ยังต้องหามาด้วยค่ะ ขาดแล้วอาจจะสุขน้อยไปอีก ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่บ้านสุขภาพจิตหนิงดีขึ้นมากค่ะ รวมถึงสุขภาพร่างกายด้วยแข็งแรงกว่าเดิม มีความสุขมากกว่าเดิมเวลาเดินช้าลงและคิดว่าดีแล้วที่กลับมาอยู่ที่บ้าน ว่ากันต่อด้วยเรื่องวิธีการปลูกข้าวเดี๋ยวนี้มีหลากหลายวิธีมากๆค่ะ แต่เพราะที่บ้านเคยหว่านข้าวหลายปีทำให้มีข้าวดีด คือข้าวที่เมล็ดจะลีบ และเป็นวัชพืชที่เหมือนข้าวมากๆเลยค่ะ ออกมาเยอะมาก ทางแก้ที่ไม่ต้องใช้ยาคือต้องใช้คนปลูกค่ะ ค่าจ้างปลูกข้าวตอนนี้ก็แพงเอาเรื่องเหมือนกันนะคะ ไร่ละ1200 บางครั้งหรือบางกลุ่มก็อาจรับแพงหรือถูกกว่านี้แล้วแต่สภาพหน้างานค่ะ แต่เห็นการทำงานก็ต้องยอมจ่ายนะคะ งานหนักเหนื่อยเอาเรื่องเลยค่ะ มาดูการปลูกข้าวกันนะคะ การเตรียมพื้นที่ปลูกนา ที่บ้านจะไถรถให้ดินแตกนัวๆก่อนปลูกเลยค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้จะไถกลบตอข้าวเอาน้ำใส่มาแล้วเพื่อให้ตอข้าวเน่าค่ะ ก่อนวันปลูกก็จะไถอีกรอบก่อนปลูกค่ะ แปลงกล้าข้าวที่หว่านค่ะ ที่บ้านเน้นปลูกกินเลยปลูกข้าวหลายสายพันธุ์เลยค่ะ ทีมปลูกข้าวจะมาถอนกล้าข้าว 1 วันกันเลยทีเดียวค่ะ ที่บ้านปลูกแค่16ไร่กว่าเท่านั้นค่ะ ตอนแล้วก็กองไว้ที่แปลงกล้าข้าวก่อนนะคะ ที่เห็นปลายตรงๆแบบนี้ เค้าตัดปลายกล้าข้าวทิ้งค่ะ พ่อจะบอกว่าแปลงไหนปลูกนาไร่ไหนวันต่อมา จะช่วยกันขนกล้าข้าวไปโยนลงนาค่ะ เพื่อเตรียมปลูก น้ำพอดีๆไม่ต้องมากนะคะ เดี๋ยวเดินยากค่ะ พอได้1-2ไร่ จะแบ่งคนไปปลูก และคนขนกล้าไปในนาอื่นๆต่อค่ะ แล้วช่วยกันปลูก ทั้งหมดนี้ทำ3-4 วันค่ะ เพราะทีมปลูก อายุรวมกันร่วมๆ 200ปีเลยแต่แข็งแรงมากมายปลูกแล้วเราก็รอเค้าเติบโตต่อไป หอข้าวออกใบเยอะๆอากาศที่บ้านดีมากค่ะ ไม่ร้อนมากเพราะมีไอน้ำมีต้นไม้ ช่วงไหนเอาน้ำใส่นามากพอปลาในนาก็มีเยอะเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวยุงข้าวที่ปลูกเวลาสีกินหรือสีขายเราสีแบบที่เราชอบข้าวกล้องหรือข้าวขาวก็กินสะดวกใจ ประหยัดเงินได้อีกด้วยค่ะ จะกินค่อยสีเพราะไม่ได้อบน้ำยาถ้าสีไว้มากๆมอดข้าวกินข้าวเราหมดเพราะกินไม่ทันค่ะ ความประทับใจในการกลับมาอยู่บ้านได้ใช้ชีวิตที่อิสระจากเวลา และผู้คน ทำให้ชีวิตสดใสมากขึ้นด้วยค่ะ เพราะทั้งหมดนี้คือชีวิตที่เราเลือกเองค่ะ อย่างการปลูกข้าวที่บ้านจะไม่ปลูกก็ได้เพราะมีอาชีพอื่นที่พอทำรายได้เข้าบ้านอยู่แล้วแต่การปลูกข้าวและการได้ดูแลให้โตจนเกี่ยวได้แม้ราคาข้าวจะถูกแสนถูก แต่มีส่วนที่เก็บไว้กินเองด้วยการกินข้าวที่ไม่ได้อบยากันมอดทำให้สบายใจและส่วนหนึ่งคือการได้ใช้เวลากับครอบครัวเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตมีความหมายและมีความสุขที่สุดค่ะ เครดิตภาพภาพทั้งหมดโดย Ningsiri crochet7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์