รีเซต

จะเกิดอะไรขึ้น! หากรัฐนำ LTF กลับมา

จะเกิดอะไรขึ้น! หากรัฐนำ LTF กลับมา
ทันหุ้น
8 พฤษภาคม 2567 ( 12:33 )
26
จะเกิดอะไรขึ้น! หากรัฐนำ LTF กลับมา

นับเป็นการจุดประกายความหวังให้กับตลาดหุ้น เมื่อ นายพิชัย ชุนหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมทบทวนนำ กองทุนหุ้นระยะยาว หรือ LTF กลับมาอีกครั้ง 

 

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ ถ้ามี LTF กลับมาใหม่อีกครั้ง ประเมินจะมีผลดีต่อตลาดหุ้นไทยในหลากหลายมิติ ดังนี้

 

1 . แรงขายจากนักลงทุนสถาบันฯ มีโอกาสลดลง สังเกตได้จากหลังหมด LTF และ SSFX มาซักระยะนักลงทุนสถาบันฯ ก็เริ่มขายสุทธิออกมาต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ ม.ค. 64 - เม.ย.67 สถาบันฯ เป็นผู้ขายหุ้นไทยมากสุด - 1.5 แสนล้านบาท สูงกว่าต่างชาติ -1.03 แสนล้านบาท

2. หักล้างการ REDEEM ใน LTF เก่า พอ LTF หมดลงก็ไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาหนุนตลาดฯ มีแต่เม็ดเงินที่ทยอยถอนออก (REDEEM) โดยก่อน LTF หมดสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี (ปลายปี 2562) ตอนนั้นมีเม็ดเงิน LTF คงค้างในระบบสูงถึง 4.06 แสนล้านบาท ค่อยๆ ถอนออกจากตลาดหุ้นไทยกว่า1.59 แสนล้านบาท กดดันตลาด และล่าสุด เม.ย. 67 เหลือมูลค่าคงค้าง LTF อยู่ 2.47 แสนล้านบาท หากไม่มีเม็ดเงิน LTF ใหม่เข้ามาช่วยพยุง ตลาดหุ้นไทยก็จะถูกกดดันจากแรงขายในยอดเงินคงค้างต่อ

3. ลดผลกระทบจากการ SHORT SELL หรือแรงกระทบจากปัจจัยภายนอกส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนในช่วงระยะสั้น แต่หากมีเม็ดเงิน LTF น่าจะเข้ามาช่วยพยุงในยามผันผวนระยะสั้นได้ เพราะผู้ลงทุน LTF จะหาจังหวะสะสมในช่วงที่ตลาดย่อตัวลงมา

 

4. คาดหวังเม็ดเงินจาก LTF ใหม่เข้ามาหนุนราว 6 - 7 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยปกติในอดีตจะมีเม็ดเงิน LTF ใหม่ใหลเข้าหุ้นไทยราว 6 - 7 หมื่นล้านบาทต่อปีพร้อมกับช่วยหนุนสภาพคล่องในระบบเพิ่มขึ้น

5. หนุนสภาพคล่อง หรือ TURNOVER ในระบบให้สูงขึ้น โดยในอดีตช่วงมี LTF ตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องหรือ TURNOVER เฉลี่ยสูงถึง 80% ต่อปี แต่ปัจจุบัน TURNOVER เฉลี่ยเหลือเพียง 62.7% หากสภาพคล่องกลับมาบริเวณปกติ ที่ TURNOVER เฉลี่ยสูงถึง 80% ต่อปี จะมีมูลค่าซื้อขายกลับไป5.5 หมื่นล้านบาทต่อวัน น่าจะเพียงพอในการขับเคลื่อนดัชนีหุ้นไทยให้ขยับขึ้นได้

6. อาจจะแบ่งเม็ดเงินจากกองทุนหุ้นเมืองนอกกลับมาบ้าง โดยล่าสุดฝ่ายวิจัยฯ รวบรวมข้อมูลเม็ดเงินกองทุนหุ้นในระบบ พบว่า เป็นเม็ดเงินในกองทุนหุ้นเมืองนอก (FIFEQ + RMFFIFEQ) สูงสุดถึง 6.4 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของกองทุนหุ้นทั้งหมด ขณะที่เป็นเม็ดเงินจากกองทุน RMF หุ้นไทยเพียง 1.1 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 7% และกองทุน LTF เพียง 2.5 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 15% เท่านั้น

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา หากมีการพื้น L TF กลับมา จะช่วยแก้ปัญญาตลาดหุ้นไทยที่ผชิญในปัจจุบันได้หลายมิติ ทั้งลดแรงขายจากทางสถาบันฯ, หักล้างการ REDEEM ใน LTF เก่า, ลดผลกระทบจากการ SHORT SELL, เพิ่มสภาพคล่องในระบบ และที่สำคัญหวังเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในประเทศ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง