เอสซีจี ลุ้นรายได้ปีนี้เฉียด 6 แสนล้านบาท กังวลเงินเฟ้อกระทบธุรกิจ
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่าปี 2565 เอสซีจีตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมามีรายได้จากการขาย 530,112 ล้านบาท โดยประเมินจากภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ที่น่าจะมีกำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น จากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบ ราคาเชื้อเพลิง ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาดทั่วโลก รวมทั้งต้นทุนการเงินสูงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ภาคธุรกิจต้องเตรียมรับมือ
“ปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP 1) ประเทศเวียดนาม 40% ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 90% คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิต (ซีโอดี) ได้ในช่วงกลางปี 2566 ส่วนงบลงทุนอีก 60% จะใช้ในการแสวงหาแหล่งการเติบโตใหม่จากทรัพย์สินที่มีอยู่ภายในองค์กร และการควบรวมกิจการต่างๆ ของกลุ่มธุรกิจที่การวางแผนไว้ โดยยังไม่มีแผนการลงทุนตั้งโรงงานในอินเดีย เพียงแต่มีการส่งสินค้าไปจำหน่าย”นายรุ่งโรจน์กล่าว
นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของเอสซีจี ประจำปี 2564 มีกำไร 47,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38% มีรายได้จากการขาย 530,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33% มียอดขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม 182,510 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของยอดขายรวม มีสัดส่วนของการพัฒนาสินค้าใหม่ 15% และบริการเซอร์วิส โซลูชั่น 5% ของยอดขายรวม
โดยผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น เป็นผลจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นในทุกธุรกิจ ส่วนใหญ่มาจากราคาและปริมาณขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น เห็นได้จากธุรกิจเคมิคอลส์ปี 2564 มีกำไร 28,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการขาย 238,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 62% เนื่องจากราคาและปริมาณขายสินค้าสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าลง
ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ปี 2564 มีกำไร 4,262 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34% มีรายได้จากการขาย 182,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เนื่องจากมียอดการส่งออกสินค้าไปยังตลาดอื่นๆ นอกภูมิภาคอาเซียนและความต้องการสินค้าผลิตภัณฑ์ก่อสร้างภายในประเทศตามงานปรับปรุงและซ่อมแซมที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ ธุรกิจแพคเกจจิ้งของเอสซีจีแพคเกจจิ้ง(เอสซีจีพี) ปี 2564 มีกำไร 8,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28% มีรายได้จากการขายเท่ากับ 124,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากการเติบโตของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในกลุ่มสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก การเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในรูปแบบขยายกำลังการผลิต และการควบรวมกิจการ