ประกันสังคม ม.33-ม.39 พร้อมรับเงินชราภาพผ่านพร้อมเพย์
สิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกันตนในอนาคตเมื่อเข้าสู่วัยที่อายุมากขึ้น คือการได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องจนเกษียณอายุการทำงาน โดยสำนักงานประกันสังคมคำนึงถึงสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ประกันตนกรณี
ชราภาพ ซึ่งการที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จ่ายเงินสมทบทุกเดือน ถือเป็นเรื่องดีที่ยังอุ่นใจได้เสมอว่าแม้ทำงานแล้วอายุมากขึ้นจนถึง 55 ปีบริบูรณ์และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนลง ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์จากกรณีชราภาพที่ออมเงินออมสุขไว้ให้ผู้ประกันตนได้มีหลักประกันในช่วงท้ายบั้นปลายชีวิต
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำหรับกรณีชราภาพ ผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพ จะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วครบ 180 เดือน จะได้รับสิทธิประโยชน์เงินบำนาญเป็นรายเดือนตลอดชีวิต ในอัตราร้อยละ 20 ของเงินค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ซึ่งใช้เป็นฐานการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง แต่ถ้าผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน จะปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน ทั้งนี้ หากผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพแก่ทายาทจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับก่อนถึงแก่ความตาย
ส่วนเงินบำเหน็จชราภาพ จะเป็นการจ่ายเงินก้อนครั้งเดียวให้แก่ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน โดยผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายสมทบ หากเป็นกรณีที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกันตนที่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แล้วแต่สถานะความเป็นผู้ประกันตนยังคงอยู่จะไม่สามารถยื่นเรื่องของรับสิทธิกรณีชราภาพได้ และยังสามารถส่งเงินสมทบต่อได้เรื่อย ๆ เพื่อรับสิทธิประโยชน์สะสมเงินชราภาพอย่างต่อเนื่อง จนกว่าผู้ประกันตนมีความประสงค์ที่จะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จึงจะยื่นเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพได้
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดการเป็น ผู้ประกันตนแล้ว สามารถยื่นเอกสารแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส.2-01) ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่สะดวกทั่วประเทศ โดยผู้ประกันตนสามารถขอรับเงินชราภาพได้ภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิรับเงินกรณีชราภาพ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกันตนสามารถรับเงินชราภาพผ่านพร้อมเพย์โดยลงทะเบียนกับธนาคารที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้ได้ทุกธนาคารเช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการ 24 ชั่วโมง หรือ Line : @ssothai และทางเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
ข้อมูลจาก สำนักงานประกันสังคม
ภาพจาก สำนักงานประกันสังคม / TNN ONLINE